แม้ระบบการเกษียณอายุของสหรัฐฯ จะมีงบถึง 39 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ก็ไม่ได้คุณภาพดีอย่างที่คาดหวังไว้ โดยตามดัชนีบำเหน็จบำนาญของสถาบัน Mercer CFA จัดอยู่ในระดับ C+ เท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น สหรัฐไม่ได้จัดอยู่ 10 อันดับแรกของประเทศที่มีระบบการเกษียณอายุที่ก้าวหน้าที่สุดด้วยซ้ำ แต่อยู่ในอันดับที่ 17 เป็นรองจากไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย และประเทศที่พัฒนาแล้วอีกหลายๆ ประเทศ ที่มีคะแนนสูงกว่า
ไอซ์แลนด์สามารถดีดตัวมาอยู่ในอันดับต้นๆ ได้ เนื่องจากเป็นประเทศที่ให้ผลประโยชน์จากการเกษียณอายุที่มีประโยชน์และเอื้อเฟื้อต่อประชากรอย่างมาก โดยประเทศนี้มีผู้สูงอายุจำนวนน้อยที่อาศัยอยู่ด้วยความลำบากยากจน นอกเหนือจากรายได้เกษียณสูงสุดรายได้หนึ่ง ส่วนเดนมาร์กและเนเธอร์แลนด์ก็ยังได้ระดับ A ด้วยเช่นกัน
กลับมาที่อเมริกา พบอัตราความยากจนอยู่ในระดับสูง นักวิเคราะห์กล่าวว่าระบบการเกษียณอายุจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ ทุกวันนี้ เป็นเรื่องยากที่หลายคนจะสามารถวางใจได้กับการเกษียณอายุด้วยความมั่นคงทางการเงินที่เหมาะสม ฟังดูค่อนข้างแปลกเมื่อพิจารณาถึงเงินลงทุนเกือบ 40 ล้านล้านดอลลาร์ในภาคส่วนนี้ บางคนก็ได้รับการดูแลอย่างดี ขณะที่บางคนต้องเผชิญความยากลำบาก
แม้ระบบการเกษียณอายุยังไม่ได้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่ก็มีหลายคนที่ต้องยอมจำนนเพราะยังไม่มีแผนเกษียณอายุในระยะยาว มีพนักงานเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น (พูดให้ชัดเจนคือ 53%) มีสิทธิ์เข้าถึงแผนการเกษียณอายุที่นายจ้างเสนอให้ ในปี 2020 ชาวอเมริกันมากกว่าครึ่งประสบปัญหาด้านการออมเงิน
ดูเหมือนมีคนทำงานจำนวนมากขึ้นที่ชอบออมเงินเพื่อรองรับการเกษียณ จากเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่สามารถเก็บเงินได้ 1 ล้านดอลลาร์สำหรับการเกษียณอายุเมื่ออายุ 35 ปี อยากให้ลองดูเคล็ดลับของชายคนดังกล่าว ในการเป็นผู้เกษียณอายุเพียงคนเดียวที่มีเงินก้อนโต
สิ่งที่ท่านสามารถทำได้ในการหลีกเลี่ยงช่องว่างในการออมคือการเริ่มออมทันที MTrading ให้ท่านเริ่มออมและการลงทุนด้วยเงินเพียงไม่กี่เซ็นต์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเกษียณอายุด้วยเงินก้อนโต!