USDJPY ชะลอการร่วงลงครั้งแรกในรอบห้าสัปดาห์ ขณะการขึ้นแถลงการณ์ของประธาน Fed และการรายงาน US NFP

ความเชื่อมั่นในการซื้อขายยังไม่มั่นคงนักในช่วงเช้าวันจันทร์ ขณะที่ ดอลลาร์สหรัฐฯเริ่มฟื้นตัวหลังจากเผชิญกับช่วงแนวโน้มขาลงในรอบสองสัปดาห์แม้จะมีความคิดเห็นที่สนับสนุนนโยบายการเงินที่เข้มงวดจากเจ้าหน้าที่ของ Fed ก็ตาม ถึงกระนั้น พาดหัวข่าวจากจีนยังชี้ให้เห็นถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้นและสภาวะที่ระมัดระวังของตลาดก่อนการรายงานข้อมูล/เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจของสัปดาห์นี้

ในขณะที่ ดอลลาร์สหรัฐฯยังมีทิศทางที่ไม่ชัดเจน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของกระทรวงการคลังสหรัฐฯก็เพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยซึ่งท้าทายการพุ่งสูงขึ้นของสกุลเงินหลักเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และส่งผลให้คู่เงิน EURUSD ขยับตัวสูงขึ้น รวมถึงคู่เงิน GBPUSD ที่ขยายการฟื้นตัวจากวันศุกร์โดยพลิกกลับการร่วงลงประจำสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ คู่เงิน USDJPY ยังปรับตัวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย ส่วนคู่เงิน AUDUSD และคู่เงิน NZDUSD ยังคงได้รับแรงกดดัน เนื่องจากความท้าทายที่มาจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดภายในประเทศ

ในอีกทางหนึ่ง ราคาทองคำแกว่งตัวใกล้จุดสูงสุดในปี 2024 หลังจากทำสถิติพุ่งสูงขึ้นทั้งรายวันและรายสัปดาห์สูงสุดตั้งแต่ปลายปี 2023 ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงหลังจากพุ่งสูงขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์

ทางฝั่งนักลงทุนคริปโตต่างเริ่มสงสัยว่า BTCUSD และ ETHUSD จะสามารถพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องที่ระดับสูงสุดในรอบหลายปีได้หรือไม่ ท่ามกลางการขาดแรงจูงใจหลักสำหรับช่วงแนวโน้มขาขึ้น

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

• น้ำมันเบรนท์ (Brent) ยังคงมีราคาเสนอซื้อเป็นบวกเล็กน้อยที่ประมาณ $84.30 แม้ว่าจะชะลอตัวจากการพุ่งสูงขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์
• ทองคำ (Gold) ยังคงแข็งค่าที่ระดับสูงสุดในปี 2024 โดยอยู่ที่แนวต้านบริเวณ $2,088-90
• ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD INDEX) ยังคงอยู่ในแนวรับต่ำกว่า 104.00 โดยยังคงระดับการร่วงลงรายสัปดาห์ล่าสุด
• ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดบวกเล็กน้อย แต่ หุ้นในโซนเอเชียแปซิฟิก ปรับตัวลดลง ขณะที่ หุ้นในยุโรปและสหราชอาณาจักร ยังขาดทิศทางที่ชัดเจน
• BTCUSD และ ETHUSD แกว่งตัวอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบหลายเดือนที่ประมาณ $64,100 และ $3,480 ตามลำดับ

ดอลลาร์สหรัฐฯดิ้นรนหาแรงหนุนจากท่าทีเข้มงวดของ Fed ...

แม้ว่าเจ้าหน้าที่ Fed ส่วนใหญ่จะยังคงรักษาระดับอัตราดอกเบี้ยตามแนวทาง “higher for longer” แต่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯล่าสุดที่ไม่สอดคล้องกับท่าทีของ Fed รวมถึงความเห็นที่มีท่าทีสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดจากธนาคารกลางรายสำคัญอื่นๆ อย่างธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ล้วนส่งผลต่อการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยเหตุนี้ ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของสหรัฐฯที่ตกต่ำในวันศุกร์จึงส่งผลกระทบต่อดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ด้วยเช่นกัน

ในขณะเดียวกัน ราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ โดยทะลุแนวต้านทางเทคนิคที่ขณะนี้ทำหน้าที่เป็นแนวรับที่ราวๆ $2,065 โดยอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนแรงเทซื้อ XAUUSD มาจากข่าวล่าสุดจากจีน ที่มีการออกมาตรการเพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจซึ่งส่งผลให้จีนกลายเป็นหนึ่งในประเทศผู้บริโภคสินค้าโภคภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก นอกจากนี้ ตัวเลข GDP ที่แข็งแกร่งของอินเดีย และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลักรายสำคัญๆในปี 2024 ยังช่วยพยุงช่วงแนวโน้มขาขึ้นของทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยแบบดั้งเดิมอีกด้วย

ในอีกทางหนึ่ง ข่าวจากญี่ปุ่นดูเหมือนจะเป็นการกระตุ้นคู่เงิน USDJPY แม้ว่าดอลลาร์สหรัฐฯจะซบเซาก็ตาม โดยในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อญี่ปุ่นได้เผยแพร่ข่าวว่า รัฐบาลโตเกียวกำลังพิจารณาประกาศยุติภาวะเงินฝืดอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) และส่งผลกระทบต่อค่าเงินเยนของญี่ปุ่น (JPY) ก่อนการรายงานข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นในสัปดาห์นี้

อีกทางด้านหนึ่ง ตัวเลขเงินเฟ้อที่แข็งแกร่งขึ้นของยุโรป รวมถึงความเห็นที่หนุนนโยบายการเงินที่เข้มงวดจากผู้บริหารของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังส่งผลให้คู่เงิน EURUSD พุ่งสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การพูดคุยกันของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ไม่ได้ส่งผลสนับสนุนคู่เงิน GBPUSD โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร โดย คู่เงิน USDCHF ปรับตัวลดลงหลังจากข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสวิตเซอร์แลนด์ออกมาดีเกินคาด ขณะที่ คู่เงิน USDCAD ยังคงปรับตัวสูงขึ้นก่อนการตัดสินใจเรื่องนโยบายการเงินของธนาคารกลางแคนาดา (BoC) และการรายงานข้อมูลการจ้างงานของแคนาดาในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์สืบเนื่องมาจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC+) ประกาศความพร้อมที่จะขยายการลดกำลังการผลิตไปจนถึงไตรมาสที่ 2 ของปี 2024 ถึงกระนั้น ราคาน้ำมันดิบก็ยังปรับตัวลดลงในช่วงหลัง โดยมีสาเหตุมาจากความกังวลของตลาดเกี่ยวกับความต้องการน้ำมันที่อาจลดลงและธนาคารกลางรายสำคัญทั่วโลกต่างสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

• สัญญาณซื้อแรง: USDCAD, USDJPY
• สัญญาณขายแรง: Crude Oil, US Dollar, GBPUSD
• สัญญาณซื้อ: BTCUSD, ETHUSD, Nasdaq, Gold
• สัญญาณขาย: DAX, FTSE 100, BTCUSD, AUDUSD, EURUSD

สัปดาห์สำคัญเริ่มต้นอย่างเงียบเหงา….

ปฏิทินเศรษฐกิจในวันนี้มีรายละเอียดให้ติดตามน้อยลง ซึ่งในทางกลับกันอาจทำให้นักลงทุนในตลาดสามารถทรงตัวจากการเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ได้ อย่างไรก็ตาม ความสนใจหลักยังให้สำคัญไปที่การขึ้นแถลงการณ์ของประธาน Fed Jerome Powell ซึ่งมีกำหนดในวันพุธและพฤหัสบดี ตามมาด้วยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐฯ (NFP) ในวันศุกร์ ถ้าหากปัจจัยเหล่านี้ของสหรัฐฯสนับสนุนความล่าช้าของ Fed ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ดอลลาร์สหรัฐฯจะฟื้นตัวขึ้นจากการร่วงลงครั้งล่าสุด ซึ่งอาจท้าทายการพุ่งสูงขึ้นของราคาทองคำด้วยเช่นกัน

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !