ตลาดสหรัฐฯ เริ่มต้นสัปดาห์ในทิศทางบวก ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารและเทคโนโลยีมีการปรับตัวขึ้น อีกทั้งยังได้แรงหนุนจากทีท่าในการสงบศึกของรัสเซีย-ยูเครน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงไม่กล้าเสี่ยงมาก เนื่องจากยังมีข่าวลือเกี่ยวกับการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปและการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจของธนาคารโลก รวมถึงทิศทางนโยบาย Hawkish ของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ซึ่งค่อนข้างสร้างความท้าทายให้อารมณ์ตลาดในเชิงบวกที่เป็นอยู่ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ยังคงแข็งแกร่งและดันคู่เงิน USDJPY ต่อไป
AUDUSD และ NZDUSD ยังคงปรับตัวขึ้น แม้ว่า RBA จะยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ แต่สินทรัพย์ปลอดภัย (Safe haven) อย่างเงินเยนญี่ปุ่น ทองคำ และดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ไม่สามารถฟื้นตัวได้ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังคงแข็งแกร่งท่ามกลางความกลัวที่ว่าอุปทาน (Supply) จะตึงตัวขึ้นต่อ
หุ้นเอเชียมีทั้งขึ้นและลงในช่วงเริ่มต้นของรอบการเทรดยุโรป ขณะที่ BTC/USD และ ETH/USD ปรับบวกเล็กน้อย
มาดูรายงานความเคลื่อนไหวของสินทรัพย์หลักประจำวันนี้:
การเมือง-สถานการณ์โควิดส่งผลกดดันอารมณ์ตลาดก่อนการประกาศสำคัญ
ขณะที่หุ้นสหรัฐปรับบวกในวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาหุ้นกลุ่ม Tech ได้ดันดัชนี Nasdaq ขณะที่ธนาคารต่างๆ ก็เป็นแรงหนุนให้ตลาดกลับมาสดใสอีกครั้งก่อนรายงานการประชุม FOMC และการแถลงของธนาคารกลางสหรัฐ (Fedspeak) รวมถึงตัวเลข PMI เดือน มี.ค. จาก ISM โดยตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่ผู้นำยูเครนและรัสเซียจะตกลงที่จะมีประชุมส่วนตัวร่วมกันครั้งแรกเกี่ยวกับการสงบศึก
อย่างไรก็แล้วแต่ ธนาคารโลกทำให้อารมณ์ตลาดแปรปรวนอีกครั้งหลังมีการยุติการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก และกล่าวอ้างถึงผลกระทบต่อเมืองเคียฟของยูเครน โดยที่น่ากังวลคือการที่ EU ประกาศคว่ำบาตรธุรกิจกลุ่มพลังงานของรัสเซียเพิ่มเติม รวมถึงปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดในจีน
นอกจากนี้ แนวโน้มที่ RBNZ และ RBA จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงการคาดการณ์เงินเฟ้อของสหรัฐฯ ส่งแรงกดดันต่อระดับความเสี่ยงในตลาด
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นในวันจันทร์ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในบูชาและมาริอูโปลซึ่งส่งผลลบต่อการเจรจาสันติภาพ ขณะที่สหรัฐเองก็ยังเดินหน้าผลักดันการคว่ำบาตรรัสเซียต่อเนื่อง โดยตามการรายงานของรอยเตอร์ สหรัฐได้ยุติการจ่ายพันธบัตรของธนาคารรัสเซีย ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการหยุดพักเจรจาของสหรัฐและอิหร่าน
ขณะที่หุ้นตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปรับตัวดีขึ้น ทองคำและ USD รวมถึงคริปโตมีความเคลื่อนไหวไม่ดีเท่าไหร่นักในรอบการเทรดของตลาดเอเชีย
ส่วน BTCUSD เป็นเทรนด์ขาขึ้นติดต่อกันถึง 3 วัน แม้ก่อนหน้านี้ราคาจะมีการแกว่งตัวเล็กน้อย ขณะที่ ETHUSD กลับมาเป็นขาขึ้นหลังจากเริ่มต้นสัปดาห์ได้ไม่ค่อยดีนัก ที่ระดับใกล้เคียงกับราคาสูงสุดเดิมในรอบ 3 เดือน
แนวโน้มปัจจุบัน
ตลาดกำลังทยอยเปิดรับความเสี่ยง (Risk-on) อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบและทองคำยังผันผวน:
⏫ 🟢 สัญญาณซื้อแรง: DAX, FTSE 100 และ BTC/USD
⏬ 🔴 สัญญาณขายแรง: DOW JONES, S&P 500
⏫ 🟢 สัญญาณซื้อ: USD Index, ETH/USD, Nasdaq
⏬ 🔴 สัญญาณขาย: Brent oil, Silver, Gold
นักเทรดฝั่งขาขึ้นควรระวัง อย่าลืมจับตาประเด็นยูเครนและความเคลื่อนไหวแบงก์ชาติ
หากพิจารณาถึงความกังวลล่าสุดระหว่างยูเครน-รัสเซีย และสหรัฐ-อิหร่าน รวมถึงทีท่า Hawkish จากธนาคารกลางรายใหญ่และตัวเลข PMI ที่ฟื้นตัวขึ้น ตลาดโลกมีแนวโน้มที่จะกลับมาอยู่ในความวิตกอีกครั้ง อย่างไรก็ดี ความกังวลจากรายงานของ FOMC และสถานการณ์ในเมืองเคียฟที่ไปในทิศทางที่ดีขึ้น อาจช่วยลดอารมณ์เชิงลบของตลาด ซึ่งอาจหนุนสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง เช่น สินค้าโภคภัณฑ์, คริปโต และคู่เงินที่มีความเสี่ยง ให้มีการปรับตัวขึ้น
ทำกำไรจากความเคลื่อนไหวในตลาดด้วยระบบ Copy Trade ของ MTrading พร้อมเงื่อนไขชั้นนำ:
คัดลอกการเทรดของนักเทรดมือโปรโดยอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ ด้วยค่าสเปรด 0 ผ่านบัญชี M.Pro!
ขอให้ท่านโชคดีในการเทรด!