บรรยากาศการลงทุนในวันศุกร์ยังคงผันผวน หลังจากความเคลื่อนไหวที่รุนแรงในวันพฤหัสบดี โดยนักลงทุนเฝ้ารอรายงานตัวเลขการจ้างงานสำคัญของสหรัฐฯ และแถลงการณ์จากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เจอโรม พาวเวลล์ นอกจากนี้ ข้อมูลการจ้างงานจากยูโรโซนและแคนาดา ตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 4 ของสหภาพยุโรป รวมถึงความคิดเห็นของประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) คริสติน ลาการ์ด ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเคลื่อนไหวของตลาด ทำให้นักลงทุนยังคงมีท่าทีระมัดระวัง
แม้ว่าตัวเลขผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐฯจะลดลง การขาดดุลการค้าหดตัว และ ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยพร้อมการผ่อนคลายทางนโยบายการเงิน แต่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯยังคงอ่อนค่าลง อีกทั้ง จำนวนการปลดพนักงานในสหรัฐฯที่เพิ่มสูงขึ้น ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และข่าวสารเกี่ยวกับนโยบายภาษีที่ให้ทั้งสัญญาณบวกและลบ ยังคงสร้างแรงกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์ โดยในช่วงเช้าวันศุกร์ ความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอ การคลี่คลายข้อพิพาทด้านภาษี และสถานการณ์ตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นกับอิหร่านและจีน ยิ่งส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯเผชิญแรงกดดันต่อเนื่อง
จากปัจจัยเหล่านี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ห้า และมีแนวโน้มร่วงลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2022 ซึ่งในทางกลับกันกลับส่งผลเชิงบวกต่อสกุลเงินหลัก ทองคำ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) และ ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบและสกุลเงินดิจิทัลยังคงถูกกดดัน ส่วนทางด้านตลาดหุ้นมีการขยับตัวสูงขึ้น
แม้ว่าคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะแสดงความกังวลเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลให้คู่เงิน EURUSD เผชิญแรงกดดันที่ระดับสูงสุดในรอบสี่เดือน แต่คู่เงินยูโรยังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น และอาจทำสถิติพุ่งสูงขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2022 ซึ่งการปรับตัวขึ้นของคู่เงิน EURUSD นี้ได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นต่อเศรษฐกิจเยอรมนี และความกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหภาพยุโรปและสหรัฐฯที่เริ่มผ่อนคลายลง
ทางฝั่งคู่เงิน GBPUSD ยังคงฟื้นตัวและปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวโน้มปิดสัปดาห์ในแดนบวก แม้ว่าก่อนหน้านี้ แคทเธอรีน แมนน์ สมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะออกมาเรียกร้องให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าการคาดการณ์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ท้าทายแรงเทซื้อปอนด์สเตอร์ลิงเมื่อวันก่อนหน้า
ในขณะเดียวกัน คู่เงิน USDJPY ร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่สามแตะระดับต่ำสุดในรอบห้าเดือน โดยการเคลื่อนไหวของญี่ปุ่นในการยุติภาวะเงินฝืดที่ดำเนินมายาวนาน รวมถึงถ้อยแถลงจากรัฐมนตรีคลัง ชุนอิจิ คาโต้ และความต้องการเงินเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้คู่เงินเยนตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน
แม้ว่าจะมีความกังวลครั้งใหม่เกี่ยวกับการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมไปถึงความตึงเครียดทางการเมือง แต่ดอลลาร์ออสเตรเลีย ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และดอลลาร์แคนาดายังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลง โดยปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากความกลัวจากเรื่องมาตรการภาษีศุลกากรที่ลดลง ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯที่อ่อนแอ และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงอันเนื่องมาจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นของกลุ่ม OPEC+ ยังจำกัดการปรับตัวขึ้นของ CAD
ราคาทองคำกำลังดิ้นรนเพื่อสร้างโมเมนตัมอีกครั้ง หลังจากสิ้นสุดช่วงขาขึ้นที่ดำเนินมาสามวัน เนื่องจากนักลงทุนยังรอสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับความอ่อนแอของตลาดแรงงานสหรัฐฯ และความท้าทายด้านการเติบโตจากภาษีศุลกากรและความไม่แน่นอนทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นในรอบสัปดาห์ โดยได้รับการสนับสนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยและดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลง
Bitcoin (BTCUSD) และ Ethereum (ETHUSD) ยังคงมีแนวโน้มปรับลดลงในรอบสัปดาห์ แม้ว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะอ่อนค่าลงและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งบริหาร (executive order) เกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนสำรอง Bitcoin (Strategic Bitcoin Reserve) ก็ตาม การปรับลดลงของระดับราคานี้อาจเกิดจากความกังวลเกี่ยวกับรายละเอียดแผนการของทรัมป์ในการทำให้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลสำรองของสหรัฐฯ ควบคู่ไปกับความรู้สึกระมัดระวังก่อนการประชุมสุดยอดคริปโตของทำเนียบขาว (White House Crypto Summit) ที่จะเริ่มขึ้นในวันศุกร์นี้
วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่คึกคักสำหรับตลาดการเงิน เนื่องจากมีการเปิดเผยข้อมูลและเหตุการณ์สำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรายงานการจ้างงานจากสหรัฐฯ แคนาดา และยูโรโซน ตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 4 ของสหภาพยุโรป รวมถึงแถลงการณ์จากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เจอโรม พาวเวลล์ และประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) คริสติน ลาการ์ด นอกจากนี้ ยังต้องติดตามข่าวสารเกี่ยวกับนโยบายภาษีของสหรัฐฯ และสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองกับอิหร่าน แคนาดา เม็กซิโก ยูเครน และจีน ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนมากขึ้น
สัญญาณเบื้องต้นชี้ว่า รายงานตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯมีแนวโน้มออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และส่งผลให้สกุลเงินหลักอื่นๆ รวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม หากพาวเวลล์ยังคงแสดงท่าทีเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจล่าสุด และยืนยันการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวด สิ่งนี้อาจช่วยพยุงค่าเงินดอลลาร์ได้ และอาจท้าทายแรงเทซื้อทองคำ โดยยังคงขาดปัจจัยบวกในการปรับตัวขึ้น สำหรับคู่เงิน EURUSD อาจชะลอการปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์บางส่วน หากลาการ์ดเน้นย้ำถึงความกังวลด้านเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับคู่เงิน GBPUSD ที่อาจเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน ขณะที่ คู่เงิน USDJPY อาจยังถูกกดดันจากจุดยืนการดำเนินนโยบายการเงินที่แข็งกร้าวของธนาคารกลางญี่ปุ่น ส่วนสกุลเงินกลุ่ม Antipodean จะเคลื่อนไหวตามทิศทางของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่คาดว่าอาจยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากนักเมื่อเทียบกับตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้านราคาน้ำมันดิบและสกุลเงินดิจิทัลยังคงต้องเผชิญแรงกดดัน
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด!