“สอนเล่นหุ้น” แนะนำวิธีเลือกซื้อหุ้นง่ายๆ สำหรับมือใหม่

บทความวันนี้จะพามือใหม่หัดเทรดทุกท่านไปท่องโลกตลาดหุ้น พร้อมหาคำตอบว่าที่เขาว่ากันว่าเทรดหุ้นนั้นง่ายมากๆ จริงหรือเปล่า? ที่สำคัญเรามีวิธีการเลือกซื้อหุ้นออนไลน์แบบง่ายๆ จ่ายปันผลดีมาแนะนำ แม้ไม่มีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับหุ้นมาก่อนก็เริ่มเทรดได้ แค่เลือกบริษัทเจ้าของหุ้นหรือกลุ่มหุ้นที่ท่านสนใจ เราจะบอกให้ว่าวิธีดูว่าหุ้นไหนควรซื้อ และตอนไหนควรขายนั้นดูอย่างไร ถ้าพร้อมแล้ว.. ไปลุยกันเลย!

เริ่มกันที่คำถามแรก “จะซื้อหุ้นได้ที่ไหน?” ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอาจไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ขึ้นอยู่กับว่าตลาดหุ้นที่ท่านสนใจนั้นเป็นตลาดของประเทศไหน ซึ่งตลาดหุ้นทั่วโลกก็มีทั้งในลอนดอน, ฮ่องกง, โตเกียว และตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดอย่างนิวยอร์ค ซึ่งมีมูลค่าตลาดหรือ Market cap กว่า 24.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว

ควรซื้อหุ้นที่ไหน?

ทุกวันนี้มีโบรกเกอร์ออนไลน์มากมายที่ทำให้การเทรดหุ้นง่ายและปลอดภัยมากย่ิงขึ้น โดยท่านสามารถค้นหาและเลือกซื้อหุ้นของบริษัทที่ท่านสนใจได้จากแพลตฟอร์มการเทรดที่โบรกเกอร์ได้ออกแบบมา สิ่งที่ท่านต้องทำง่ายๆ ก็เพียงแค่เปิดบัญชีเทรด ค้นหาหุ้นที่ท่านสนใจ จากนั้นก็ระบุราคาหุ้นและปริมาณหุ้นที่ท่านต้องการได้เลย

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นจริงที่ท่านได้ซื้อไปนั้นอาจคลาดเคลื่อนเล็กน้อยจากราคาที่ท่านระบุในคำสั่งซื้อ เนื่องจากราคาหุ้นในตลาดนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาตามอุปสงค์และอุปทานของตลาด ยิ่งจังหวะนั้นตลาดมีแรงซื้อมากเท่าไหร่ ราคาหุ้นก็จะยิ่งปรับตัวขึ้นมากเท่านั้น แต่ถ้าหากมีแรงเทขายกลับเข้ามาในตลาด ราคาหุ้นก็จะร่วงลง ซึ่งเป็นจังหวะที่ท่านสามารถซื้อหุ้นได้ในราคาถูกนั่นเองครับ

ค่าธรรมเนียมในการซื้อหุ้น

แน่นอนว่าเมื่อท่านซื้อหุ้น นอกจากจะต้องจ่ายเงินตามราคาหุ้นแล้ว ท่านจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการเพิ่มเติมที่โบรกเกอร์ที่ท่านใช้บริการเป็นผู้กำหนด โดยอาจเป็นค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย หรืออาจเป็นค่าธรรมเนียมจากการถือออเดอร์เป็นเวลานานๆ เป้นต้น เอาล่ะครับ ลองมาดูกันดีว่าค่าธรรมเนียมหลักที่ท่านอาจต้องจ่ายในการซื้อหุ้นนั้นมีอะไรบ้าง:

• ค่าบริการจากโบรกเกอร์ – แพลตฟอร์มเทรดออนไลน์จะมีรูปแบบการคิดค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ใช้บริการเป็นรายเดือนหรือรายปี โดยอาจคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดลงทุน หรือคิดเป็นดอกเบี้ยคงที่
• ค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย – ทุกครั้งที่ท่านมีการซื้อหรือขายหุ้น ท่านจะต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นหรือค่าธรรมเนียมการซื้อขายเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์บางเจ้าอาจมีส่วนลดค่าธรรมเนียมหรือโบนัสพิเศษให้สำหรับลูกค้าที่มีการซื้อขายเป็นประจำ
• ค่าธรรมเนียมโยกถอนเงิน – เป็นค่าบริการสำหรับการโอนย้ายเงินลงทุนไปยังแพลตฟอร์มเทรดอื่น หรือการถอนเงินออก
• ภาษีอากรสแตมป์ (Stamp duty) – หุ้นอังกฤษแต่ละตัวจะมีค่าภาษีคงที่ที่ท่านจะต้องจ่าย (ภาษีอากรสแตมป์ 0.5% + £1 ทุกครั้งที่มีการทำธุรกรรมมูลค่าเกินกว่า £10,000)

ลงทุนหุ้นดีจริงหรือเปล่า?

การลงทุนหุ้นจะคุ้มค่าหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่าท่านสามารถลงทุนได้ประสบความสำเร็จมากแค่ไหน บริหารความเสี่ยงได้หรือเปล่า ลองหาตัวเลือกการลงทุนที่ท่านสนใจและเหมาะกับท่านมากที่สุด โดยหากท่านมั่นใจแล้วว่าการเทรดหุ้นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของท่าน ลองมาดูสิ่งที่ท่านควรรู้ในการเทรดหุ้น ดังนี้:

1. การลงทุนหุ้นส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนระยะยาว โดยหุ้นบางตัวอาจต้องถือนานเป็นเวลา 5-10 ปี จึงจะได้กำไรตอบแทนที่คุ้มค่า ดังนั้น หากท่านต้องการลงทุนแล้วได้ผลตอบแทนไวๆ หุ้นก็อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะกับท่านเท่าไหร่นัก
2. ไม่ควรลงทุนเฉพาะหุ้นตัวใดตัวหนึ่งเพียงอย่างเดียว แต่ควรกระจายการลงทุนในพอร์ตเพื่อเพิ่มโอกาสในการเทรดให้ได้กำไรและป้องกันความเสี่ยงในการขาดทุน

ตลาดหุ้นอาจคาดเดาได้ยาก ดังนั้น ท่านควรคาดการณ์ตลาดโดยใช้เครื่องมือช่วยเทรดต่างๆ เช่น บทวิเคราะห์ทางเทคนิค และอินดิเคเตอร์ทางเทคนิค เพื่อให้ตัดสินใจเทรดได้อย่างถูกต้อง

การซื้อหุ้นมีความเสี่ยงหรือเปล่า?

ความเสี่ยงในการเทรดหุ้นส่วนใหญ่จะเป็นความเสี่ยงจากโบรกเกอร์หลอกลวงที่เรียกกันว่า “Boiler room” หรือมิจฉาชีพที่ชวนให้ท่านไปลงทุนในแหล่งลงทุนที่ไม่น่าเชื่อถือด้วย “ข้อเสนอที่เกินจริง” ให้ท่านตาลุกวาวด้วยความอยากได้และอยากซื้อหุ้นเหล่านั้น ทั้งที่หุ้นเหล่านั้นอาจไม่มีอยู่จริง

บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน