นักเทรดมือใหม่หลายท่านมักสงสัยว่า MT4 และ MT5 นั้นต่างกันยังไง? อะไรดีกว่ากัน? ซึ่งเป็นคำถามที่ดีเพราะการเลือกโปรแกรมเทรดที่เหมาะสมกับเราจะช่วยเพิ่มโอกาสให้เทรดได้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น ด้วยเครื่องมือในโปรแกรมเทรดที่ตรงตามเทคนิคการเทรดของเรานั่นเอง
อย่างไรก็ตาม นักเทรดบางท่านอาจคิดว่า MT4 และ MT5 นั้นไม่ต่างกันมาก เนื่องจากทีมนักพัฒนาทีมเดียวกันซึ่งน่าจะมีทุกอย่างตามความต้องการของนักเทรด แต่ในความเป็นจริงแล้วทั้งสองโปรแกรมมีฟีเจอร์และฟังก์ชั่นบางอย่างที่แตกต่างกันบ้างเล็กน้อย
เราขอไม่ลงลึกถึงระดับเทคโนโลยีต่างๆ เอาเป็นว่ามาลองดูความแตกต่างหลักๆ ระหว่าง 2 โปรแกรม
ฟีเจอร์ของ MetaTrader 4:
ฟีเจอร์ของ MetaTrader 5:
แม้ว่าเราจะไม่ลงลึกถึงรายละเอียดต่างๆ ทางเทคนิค แต่เรายังต้องพูดถึงความแตกต่างระหว่าง 2 โปรแกรมแบบละเอียด จึงอาจมีภาษาโปรแกรมเข้ามาเกี่ยวบ้างเล็กน้อย โดย MetaTrader 4 จะใช้ MQL4 ขณะที่ MetaTrader 5 นั้นใช้ MQL5 ซึ่งมาพร้อมกับฟังก์ชั่น “Black box” ที่ทำให้เทรดเดอร์สามารถพัฒนาและปรับแต่งตัวโปรแกรมเทรด หรือการใช้ Robot ต่างๆ ได้นั่นเอง
พูดง่ายๆ ก็คือ MT5 นั้นเหมาะสำหรับพาร์ทเนอร์และนักพัฒนาซอฟต์แวร์การเทรด ขณะที่ MT4 นั้นเหมาะสำหรับนักเทรดทั่วไป ที่สำคัญ MetaTrader 4 ยังมีการเพิ่มฟังก์ชั่น MetaQuotes เข้ามาในปี 2014 ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเทรดให้กับผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น
ข้อดีหลักๆ ของ MT5 คงหนีไม่พ้นการตั้งค่า ปรับแต่ง และใช้งานร่วมกับโปรแกรมเสริมอื่นๆ เพิ่มเติม และที่โดดเด่นก็คือฟีเจอร์ Backtestสำหรับทดสอบการเทรด ที่สำคัญหากเทรดผ่าน MT5 ท่านสามารถเทรดคู่เงินหลายๆ ตัวได้พร้อมกันด้วยความเร็วสูงในการประมวลผล
ทั้งสองโปรแกรมไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้ ท่านไม่สามารถนำบัญชี MT5 ไปใช้งานบนโปรแกรม MT4 ได้ นั่นหมายความว่าบางฟีเจอร์ที่ใช้รันบนโปรแกรม MT5 นั้นไม่สามารถใช้งานบน MT4 ได้ เนื่องจากโปรแกรมทั้งคู่ถูกออกแบบแยกกัน
ในมุมมองของนักเทรด โปรแกรม MT4 ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เนื่องจากมีความยืดหยุ่นและความน่าเชื่อถือสูง เหมาะสำหรับนักเทรดทุกระดับ แต่ถ้าหากท่านชอบปรับแต่งฟังก์ชั่นอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อออกแบบซอฟต์แวร์เทรดของตัวเองโดยเฉพาะ เราขอแนะนำให้เลือก MT5 ดูครับ
บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน