รูปแบบแท่งเทียน Piercing candlestick จัดอยู่ในกลุ่มแพทเทิร์นบอกการเป็นขาขึ้น โดยจะเกิดขึ้นเมื่อสินทรัพย์อ้างอิงกำลังอยู่ในแนวโน้มหรือเทรนด์ขาลง ขณะที่นักเทรดบางท่านอาจมองว่าแพทเทิร์นนี้มีลักษณะคล้ายกับแพทเทิร์น Engulfing ซึ่งอยู่ในประเภทแท่งเทียนชี้สัญญาณขาขึ้นเช่นกัน อีกทั้งยังมีจุดสังเกต 2 จุดคล้ายกัน แม้แพทเทิร์นจะมีความแตกต่างกัน
ในบทความวันนี้ เราจะมาพูดถึงข้อดีและข้อเสียของการใช้รูปแบบแท่งเทียนแบบ Piercing ในการเทรด Forex ซึ่งอาจเป็นกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเทรด Forex ของท่าน
รูปแบบนี้จะเกิดขึ้นเมื่อสินทรัพย์อ้างอิงอยู่ในแนวโน้มขาลง ราคาที่ลดลงจะก่อแท่งเทียนขาลงแท่งยาว ตามด้วยแท่งเทียนขนาดเล็กที่มักจะปิดสูงกว่าถึงราวๆ 50% ของแท่งเทียนขาลงก่อนหน้า
50% ที่ว่านั้นหมายถึงระดับทั่วไป แต่ไม่ได้เป็นระดัยที่แน่นอน พูดง่ายๆ ก็คือเทรดเดอร์ Forex โดยทั่วไปจะพิจารณาโดยการมองกราฟเพื่อตัดสินใจว่าจะเปิดสถานะซื้อหรือขายสินทรัพย์
ข้อดีเกี่ยวกับรูปแบบคือสามารถระบุได้ง่าย มือใหม่สามารถจำรูปแบบกราฟได้ไม่ยาก
อย่างแรกที่ต้องทำคือตรวจสอบให้แน่ใจว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงขาลงเช่นเดียวกับตราสารที่กำลังซื้อขายอยู่ มิฉะนั้นรูปแบบที่ท่านเห็นอาจไม่ใช่แท่งเทียน Piercing
จากนั้น ท่านจะเห็นกราฟแท่งเทียนขาลงทางด้านซ้าย โดยส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับตัวแท่งเทียนขนาดใหญ่และเงาด้านล่างและด้านบนที่เล็กกว่า ลองพิจารณาดูความยาวของแท่งเทียนว่ามีความยาวที่เข้าเกณฑ์ของแพทเทิร์นหรือไม่
ขั้นที่สาม ดูจังหวะแพทเทิร์นขาขึ้นที่ตามหลังมาจากรูปแบบขาลงก่อนหน้า โดยแพทเทิร์นขาขึ้นควรจะปิดประมาณครึ่งหนึ่งของแพทเทิร์นที่ใหญ่กว่า นอกจากนี้ควรมีช่องว่างเล็กน้อย ทางที่ดีที่สุดนักเทรด Forex จะต้องประเมินด้วยสายตาตัวเอง
และนี่คือลักษณะหลักๆ ของแพทเทิร์น Piercing candlestick:
เอาล่ะ คราวนี้ลองมาดูความหมายของแท่งเทียนดังกล่าวกัน
แพทเทิร์นนี้ใช้เป็นอินดิเคเตอร์บอกสัญญาณสำคัญหลายๆ อย่าง อย่างแรกคือความสัมพันธ์กับเทรนด์ขาลงที่เริ่มอ่อนแรงซึ่งส่งผลให้ราคาปิดอยู่เหนือแท่งขาลง
ที่สำคัญ แพทเทิร์นเป็นสัญญาณของเทรนด์ขาขึ้นที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น อย่างไรก็ดี อาจมีการเบรคหลอก (False break) ได้เช่นกัน นั่นหมายความว่าราคาจะเป็นเทรนด์ขาลงต่อไปอีกสักระยะ อย่างไรก็แล้วแต่ ท่านสามารถคาดการณ์ได้ว่าเทรนด์ราคาจะเป็นอย่างไรต่อไป แล้ววางแผนเทรดต่อได้ไม่ยาก
แพทเทิร์นนี้สามารถใช้ร่วมกับกลยุทธ์ Forex ได้หลายแบบ แบบแรกที่ง่ายและชัดเจนที่สุดคือการเปิดออเดอร์ฝั่งซื้อเหนือแท่งเทียนขาขึ้น อย่างไรก็ดี อย่าลืมตั้งจุด Buy-stop เพื่อบริหารความเสี่ยงในกรณีที่ราคามีการเบรคหลอก
วิธีต่อมาคือการตั้ง Stop loss ต่ำกว่าแพทเทิร์นทั้ง 2 ฝั่ง หากราคาไม่เป็นไปตามหลักการ Piercing candlestick ราคาจะเป็นเทรนด์ขาลงต่อไปซึ่งจะทำให้มีการตัดขาดทุน ณ ระดับดังกล่าว
พูดง่ายๆ ก็คือ เราสามารถวางออเดอร์รอดำเนินการ (Pending order) ได้หลายๆ แบบตามสภาวะตลาดให้เหมาะกับจังหวะการเทรด ณ ขณะนั้น
ท่านสามารถนำแพทเทิร์นนี้ไปใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่นๆ ได้ ยกตัวอย่าง นักเทรดสามารถนำไปใช้ร่วมกับ RSI หรือ Stochastic Oscillator ได้ โดยเมื่อตลาดเข้าสู่สภาวะ Oversold พร้อมการฟอร์มตัวของ Piercing candlestick ก็เป็นสัญญาณว่าราคากำลังจะเป็นขาขึ้น
แน่นอนว่าแพทเทิร์น Piercing Candlestick ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่นักเทรดควรรู้และระวังก่อนนำไปใช้เทรดจริง
ข้อดี:
ข้อเสีย:
อย่างที่บอกไปแล้วว่าแพทเทิร์นนี้ก็มีข้อจำกัด เพราะใช้บอกสัญญาณการกลับตัวเป็นขาขึ้นได้อย่างเดียวเท่านั้น ที่สำคัญไม่สามารถใช้ได้เดี่ยวๆ แต่ต้องใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์หลายๆ ตัวร่วมกัน
นั่นหมายความว่าการใช้ Piercing candlestick เพื่อเทรดสวนเทรนด์นั้นจะค่อนข้างเสี่ยง เทรดเดอร์จะต้องใช้สัญญาณยืนยันแนวโน้มเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ท่านสามารถใช้ออเดอร์รอดำเนินการมาเป็นตัวช่วยในการรับมือกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปได้
บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน