นักลงทุนหลายคนทราบดีว่าทุกวันนี้ตลาดหุ้นผันผวนหนักมาก โดยความผันผวนของตลาดได้ส่งผลกระทบต่อภาคส่วนต่างๆ และส่งผลต่อการซื้อขายหุ้นเช่นกัน ในช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูง นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรและจะจัดการสินทรัพย์ที่ถืออยู่อย่างไร บางครั้งนักเทรดอาจตัดสินใจผิดพลาดซึ่งนำไปสู่จุดจบที่ไม่ดีเท่าไหร่
ในบทความนี้ เราจะมาแชร์ 5 เคล็ดลับในการป้องกันพอร์ตการลงทุนของท่านในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง เพื่อเรียนรู้วิธีจัดการสินทรัพย์ของท่านในช่วงที่ตลาดกำลังเผชิญวิกฤต
ขั้นแรกคือนักลงทุนจะต้องสงบสติอารมณ์และใจเย็นๆ เพราะความผันผวนเป็นเรื่องปกติสำหรับตลาดการเงิน ซึ่งเป็นกรณีที่แตกต่างจากความเสี่ยงในการลงทุน แม้บางครั้งเราจะไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าตลาดจะผันผวนตอนไหน และจะดิ่งถึงจุดวิกฤตเมื่อไหร่ แต่ความผันผวนของตลาดยังนับเป็นเรื่องธรรมชาติแม้จะมีผลอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการซื้อขายหุ้นและการลงทุนระยะยาว
นักเทรดที่ใช้กลยุทธ์การซื้อขายระยะยาว จะเห็นว่าราคามีการปรับตัวขึ้นและลงเป็นระยะๆ ตลอดเวลา ซึ่งบางคนอาจมองเป็นเรื่องยากที่จะรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว และยึดมั่นตามแผนการเทรดที่วางไว้ในตอนแรก
จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม สิ่งสำคัญที่ท่านควรรู้เมื่อตลาดหุ้นมีความผันผวน ได้แก่:
เอาล่ะ คราวนี้ลองมาดูเคล็ดลับในการป้องกันพอร์ตการลงทุนของท่าน แม้จะไม่สามารถรับประกันความสำเร็จได้แบบ 100% เนื่องจากความผันผวนของตลาดเป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยาก แต่ก็พอจะให้มุมมองที่เหมาะสมต่อการตัดสินใจในการจัดสรรสินทรัพย์สำหรับการลงทุนในระยะยาวได้
ส่ิงแรกที่ต้องพิจารณาคือความอดทนต่อความเสี่ยงและความสามารถในการรับความเสี่ยง ดังนี้:
การกระจายการลงทุนในพอร์ตของท่านเป็นอีกหนึ่งหนทางในการป้องกันการขาดทุนอย่างมหาศาล ทั้งนี้ นักลงทุนควรมีความเข้าใจที่ชัดเจนว่าสินทรัพย์แต่ละประเภทเป็นอย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น การเลือกลงทุนในสินทรัพย์หลายๆ รายการร่วมกันจะต้องตรงกับเป้าหมายการลงทุนที่ท่านวางไว้
ยิ่งพอร์ตของท่านมีความมั่นคงมากเทาไหร่ ความผันผวนของตลาดหุ้นก็จะมีผลต่อการลงทุนของท่านน้อยมากที่สุด โดยเราขอแนะนำการลงทุนในสินทรัพย์เทียบเท่าเงินสดหรือเงินสดซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีและปลอดภัย แต่ก็ยังมีสินทรัพย์อื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น หลักทรัพย์ซื้อคืน พันธบัตรรัฐบาล เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ท่านสร้างความปลอดภัยและความมั่นคงเพียงพอสำหรับสินทรัพย์ที่ดำเนินการ
อีกหนึ่งเคล็ดลับคือการเลือกสินทรัพย์ที่มีความผันผวนน้อย โดยเฉพาะในกรณีที่ท่านวางแผนที่จะใช้จ่ายเงินดังกล่าวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า การเลือกสินทรัพย์ที่ผันผวนน้อยก็จะสามารถป้องกันการขาดทุนได้อย่างดี ตัวอย่างสินทรัพย์ที่น่าลงทุน ได้แก่ พันธบัตรระยะสั้น
นักลงทุนมืออาชีพมักจะปรับบาลานซ์พอร์ตให้มีความสมดุลอยู่ตลอดเวลา นั่นก็คือการปิดขายออเดอร์ที่มีวอลุ่มมากเกินไป เพื่อให้มีปริมาณสัมพันธ์กับตราสารอื่นๆ ในพอร์ตของท่าน
ไอเดียสำคัญคือการย้ายจากการลงทุนสินทรัพย์ระยะยาว ไปลงทุนในสินทรัพย์ระยะสั้น เพื่อทำกำไรเพิ่มเติมจากสินทรัพย์นั้นๆ ทั้งนี้ ท่านอาจกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสม รวมถึงความถี่ในการปรับบาลานซ์ในพอร์ตโฟลิโอของท่านอย่างต่อเนื่อง
ท้ายที่สุดนักลงทุนจะต้องปรับใช้กลยุทธ์การเทรดหลายๆ แบบ และลองใช้กับสถานการณ์ตลาดที่ต่างกัน โดยทุกครั้งที่มีการตั้งออเดอร์ นักลงทุนจะต้องดูเงื่อนไขและสภาวะในตลาดด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ จะต้องจับตาดูชั่วโมงการซื้อขาย เนื่องจากชั่วโมงแรกและชั่วโมงสุดท้ายอาจผันผวนเกินไปที่จะพิจารณาการเปลี่ยนแปลงราคาปิดและเปิดของหุ้น และลองใช้กลยุทธ์การซื้อขายช่วงก่อนและหลังชั่วโมงการซื้อขายเพื่อหากลยุทธ์ใหม่ๆ ในการจัดการกับความผันผวน
เมื่อตลาดเผชิญกับความผันผวน กุญแจสู่ความสำเร็จคือการมีพอร์ตโฟลิโอที่ผ่านการจัดสรรอย่างเหมาะสมและมีความสมดุล ไม่ใช่แค่จัดการและรับมือกับความเสี่ยงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงกระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลายๆ ตัวที่ต่างกัน และตรงกับเป้าหมายการลงทุนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน