ออกจากระบบ
คุณจะแน่ใจหรือไม่ที่จะออกจากระบบ

วิธีเทรดด้วยรูปแบบแท่งเทียนบอกสัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้น

การกลับตัวเป็นขาขึ้น (Bullish reversal) คืออะไร? จากกราฟ จะรู้ได้อย่างไรว่าราคากำลังจะกลับตัวขึ้น? เพื่อคลายข้อสงสัยเหล่านี้ เทรดเดอร์จะต้องใช้กราฟแท่งเทียน (Candlestick pattern) ในการติดตามราคาและความเคลื่อนไหวในตลาด โดยในบทความที่แล้ว เราได้แนะนำเกี่ยวกับ รูปแบบแท่งเทียนขาขึ้นที่ควรจดจำในปี 2021 แต่ในวันนี้ ได้เวลามาเรียนรู้วิธีเทรดด้วยแพทเทิร์นเหล่านั้นในสภาวะตลาดจริงกันแล้ว!

None

รูปแบบกราฟแท่งเทียน หรือ Candlestick มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากมันมีลักษณะเป็นแท่งสี่เหลี่ยมเรียวยาวและมีเส้นที่ลากออกมาจากแท่งนั้น ซึ่งคล้ายกับเทียนจริงๆ นั่นเองครับ โดยแท่งเทียนนั้นจะบ่งบอกความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นหรือสินทรัพย์อื่นๆ ในแต่ละวัน จนในที่สุดมันได้กลายเป็นแพทเทิร์นหลักที่เหล่าเทรดเดอร์นิยมใช้เทรดกันถึงทุกวันนี้ โดยแพทเทิร์นแท่งเทียนนั้นแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ แท่งเทียนขาลง (Bearish pattern) และแท่งเทียนขาขึ้น (Bullish pattern)   

ในบทความวันนี้ เราจะมาเรียนรู้วิธีการดูรูปแบบแท่งเทียนที่บอกสัญญาณการกลับตัวเป็นขาขึ้น รวมถึงวิธีการเทรดด้วยแพทเทิร์นเหล่านั้น ถ้าพร้อมแล้วล่ะก็… ไปลุยกันเลย!

ทำไมต้องใช้แพทเทิร์น Bullish Reversal Candlestick?

ก่อนที่เราจะไปลงลึกถึงรายละเอียด ลองมาดูประเด็นสำคัญต่างๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับแพทเทิร์นนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการใช้เทรดต่อไป: 

  • รูปแบบแท่งเทียนช่วยให้นักเทรดที่นิยมเทรดรายวันสามารถวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคและจับตารูปแบบกราฟที่เปลี่ยนไปได้ เพื่อให้ตัดสินใจเปิดออเดอร์เทรดได้ถูกต้อง
  • แพทเทิร์นแท่งเทียนขาขึ้นจะบอกจังหวะที่ดีที่สุดในการเปิดออเดอร์ Buy และปิดออเดอร์ขาย Short
  • แท่งเทียนขาขึ้นช่วยให้เทรดเดอร์คาดการณ์จังหวะหรือระดับราคาที่เทรนด์ขาลงจะกลับตัวเป็นขาขึ้นได้

รูปแบบ Bullish Reversal Pattern บอกอะไรได้บอก?

บางครั้ง แท่งเทียนรายวันอาจฟอร์มตัวหรือจับกลุ่มกันเป็นแพทเทิร์นต่างๆ บนกราฟราคา ปรากฎเป็นรูปแบบที่เทรดเดอร์หลายท่านคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี เช่น Hammer, Engulfing และ White soldier เป็นต้น 

อย่างไรก็ตาม แท่งเทียนแต่ละแท่งอาจมีสี ขนาด และรูปร่างที่ต่างกัน รวมถึงมีจำนวนเส้นตรงที่ยื่นออกมาไม่เท่ากัน ซึ่งก็มีความสำคัญต่อการวิเคราะห์ราคาต่อไป โดยไม่ว่าท่านจะสังเกตเห็นแพทเทิร์นขาขึ้นแบบใดก็ตาม มีหลักการสำคัญที่ท่านควรพิจารณา ได้แก่:

  1. แพทเทิร์นขาขึ้นจะเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดอยู่ในขาลง (Downtrend) เท่านั้น หากรูปแบบแท่งเทียนขาขึ้นปรากฎขึ้นในจังหวะที่ไม่ใช่ downtrend มันก็อาจไม่ใช่แพทเทิร์นดังกล่าวตามที่ท่านเข้าใจ
  2. ไม่ว่าท่านจะใช้แพทเทิร์นแท่งเทียนขาขึ้นแบบใดก็ตาม ท่านจะต้องรอสัญญาณยืนยันขาขึ้นที่ชัดเจน เพื่อป้องกันสัญญาณหลอก (False signal) นั่นเองครับ โดยถ้าจะให้ดี สัญญาณยืนยันดังกล่าวจะต้องเป็นสัญญาณที่เกิดขึ้นมาภายใน 3 วันหลังจากที่ท่านสังเกตเห็นแท่งเทียนขาขึ้นนั้น

Industry-best trading conditions
Deposit bonus
up to 200% Deposit bonus 
up to 200%
Spreads
from 0 pips Spreads 
from 0 pips
Awarded Copy
Trading platform Awarded Copy
Trading platform
Join instantly

การวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค เป็นวิธีที่จะช่วยยืนยันการกลับตัวเป็นขาขึ้นได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีหลายเทคนิคที่เทรดเดอร์จะใช้วิเคราะห์กราฟราคาได้ เช่น เครื่องมือ Oscillator, เส้นเทรนด์ (Trend line), การแกว่งตัว (Momentum) และตัวชี้วัดที่บอกปริมาณการซื้อขาย (Volume) โดยเครื่องมือที่กล่าวมานี้จะเป็นตัวช่วยในการยืนยันแรงซื้อได้ ดังนี้:

  • แนวรับ – แนวรับจะเป็นตัวช่วยบอกระดับที่ราคาอาจมีการกลับตัว ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเทรดเดอร์จะกำหนดระดับแนวรับจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving average), เป้าฟีโบนัชชี (Fibonacci) และอินดิเคเตอร์อื่นๆ
  • Momentum – วิธีที่ดีที่สุดในการพิจารณาโมเมนตัมคือการใช้เครื่องมือ oscillator โดยอาจใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์ RSI, PPO, MACD และเครื่องมืออื่นๆ
  • Money Flow – อินดิเคเตอร์ที่อาศัยตัวชี้วัดปริมาณการซื้อขายเพื่อดูแรงกดดันในการซื้อและขายในตลาด เช่น OBV, CMF และ อินดิเคเตอร์อื่นๆ ที่ช่วยบอกสัญญาณการกลับตัวเป็นเทรนด์ขาขึ้น

เทรดเดอร์จะสามารถวิเคราะห์และคาดการณ์ความเคลื่อนไหวในตลาดได้ดียิ่งขึ้น หากท่านรู้จักใช้เครื่องมือหลายๆ ชนิดตามที่เราได้แนะนำไปด้วยกัน

การยืนยันการกลับตัวเป็นขาขึ้น

จากบทความที่แล้ว ทุกท่านคงทราบกันดีแล้วว่าแพทเทิร์นขาขึ้นนั้นมีทั้งที่เป็นแท่งเทียนแท่งเดียวและแท่งเทียนหลายแท่ง โดยหากเทรนด์มีการกลับตัวขึ้นจริงก็จะเป็นการบ่งบอกว่านักเทรดฝั่งซื้อเก็งกำไรสามารถเอาชนะแรงกดดันในการขายได้แล้วในที่สุด แต่อย่าลืมว่าท่านจะต้องเฝ้าติดตามสัญญาณการกลับตัวขึ้นจากเครื่องมืออื่นๆ ด้วยเช่นกัน เพราะเพียงแค่ดูแท่งเทียนอย่างเดียวท่านอาจไม่สามารถรู้ได้ว่าแรงซื้อที่เพิ่มเข้ามานั้นจะช่วยดันให้ราคาพุ่งขึ้นได้อย่างต่อเนื่องจริงๆ และที่สำคัญแพทเทิร์นขาขึ้นส่วนใหญ่จะมีอายุที่สั้น (1-2 สัปดาห์เท่านั้น) ดังนั้น ท่านควรจะยืนยันสัญญาณการกลับตัวขึ้นให้ได้ภายใน 1 - 3 วันหลังจากที่แท่งเทียนขาขึ้นได้ปรากฎขึ้น

สรุปง่ายๆ เกี่ยวกับรูปแบบแท่งเทียนขาขึ้น

แพทเทิร์นแท่งเทียนบอกการกลับตัวเป็นขาขึ้น (Bullish reversal candlestick pattern) ช่วยให้เทรดเดอร์คาดการณ์การเปลี่ยนเทรนด์และการกลับตัวของราคาได้ โดยมันจะช่วยบอกจังหวะที่ราคาอาจเกิดการกลับตัวเนื่องจากแรงขายที่เริ่มลดลงได้ แต่มีข้อควรระวังคือเทรดเดอร์จะต้องใช้แพทเทิร์นแท่งเทียนนี้ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณการกลับตัวขึ้นที่ชัดเจน จะเป็นประโยชน์มากๆ หากเทรดเดอร์รู้จักใช้แนวรับ, โมเมนตัม, money flow และอินดิเคเตอร์เชิงเทคนิคอื่นๆ เป็นตัวช่วยประกอบการเทรด 

บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน