เงินปอนด์อังกฤษแตะจุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากอังกฤษกำลังเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ โดยมีการเจรจาเรื่องการปรับขึ้นราคาฉุกเฉินและการลดภาษีอย่างจริงจัง
GBP ร่วงแตะ Low เดิมเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับ USD โดยมีมูลค่าต่ำกว่า 1.04 ดอลลาร์ หลังอังกฤษมีการประกาศลดภาษีที่จะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1972 ซึ่งมีแนวโน้มที่จะกลับไปใช้นโยบายเศรษฐกิจในยุคของแทตเชอร์และเรแกนอีกครั้ง
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เงินปอนด์อังกฤษฟื้นตัวเล็กน้อยและย่อกลับมาที่ $1.078 อย่างไรก็ตาม สถานการณ์อาจเลวร้ายกว่าเดิม หากมองจากการประกาศของรัฐบาลที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยไม่ลังเล หากจำเป็นต้องให้อัตราเงินเฟ้อกลับคืนสู่ระดับกลางซึ่งก็คือ 2%
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ และธนาคารแห่งประเทศอังกฤษอาจต้องเผชิญความเสี่ยงอย่างมากเมื่อขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างไม่เต็มใจ แม้จะมีแรงกดดันที่ชัดเจน
รัฐบาลกำลังวางแผนที่จะออกนโยบายการเงินใหม่ โดยจะมีการลดหย่อนภาษี 4.5 หมื่นล้านปอนด์ และการสนับสนุนค่าไฟฟ้าอีกกว่า 6 หมื่นล้านปอนด์ให้กับธุรกิจและครัวเรือนเพื่อให้ประชาชนไม่ตกที่นั่งลำบากอย่างน้อยในอีก 6 เดือนข้างหน้า
แน่นอนว่างบทั้งหมดจะมาจากการกู้ยืม โดย BOE ได้ประกาศแผนการที่จะขายทองคำจำนวน 8 หมื่นล้านปอนด์โดยเชื่อว่าจะทำให้รัฐบาลสามารถปรับขนาดงบดุลกลับคืนมาได้ ในขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าธนาคารจะถูกบังคับให้ดำเนินการอย่างจริงจังมากขึ้น โดยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นวิธีเดียวที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อได้
เรียกได้ว่าความเคลื่อนไหวและสถานการณ์ต่างๆ ขณะนี้ ส่งสัญญาณถึงความล้มเหลวทางเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้นในอังกฤษ โดยนักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งถึงกับเรียกสิ่งนี้ว่า "Textbook currency crisis" ที่มีธนาคารกลางอังกฤษกำลังดำเนินการตามปริมาณที่เข้มงวดขึ้นด้วยการลดหย่อนภาษีเงินกู้ยืมและมาตรการกระตุ้นทางการคลังในเบื้องหน้า
ที่แย่ไปกว่านั้นคือยังไม่มีสัญญาณว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะกลับมาเติบโตขึ้นในเร็วๆ นี้