ออกจากระบบ
คุณจะแน่ใจหรือไม่ที่จะออกจากระบบ
MTrading • 2022-08-05

ทองคำยังน่าลงทุน แม้สินค้าโภคภัณฑ์มีมูลค่าลดลง

ทองคำยังน่าลงทุน แม้สินค้าโภคภัณฑ์มีมูลค่าลดลง

ดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ให้ผลตอบแทนสูงในช่วงครึ่งปีแรกแม้ว่าภาคส่วนหลักจะกำลังประสบปัญหา โดยที่เห็นชัดๆ คือดัชนี BCOM มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 33% ระหว่างเดือนมกราคมถึงมิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็แล้วแต่ ดูเหมือนว่าตลาดสินค้าโภคภัณฑ์กำลังจะเป็นขาลงในไม่ช้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการลดลงในช่วงเดือนที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่าภาคส่วนดังกล่าวจะสามารถกลับมาได้หรือไม่ แต่ที่ยังคงสบายใจได้คือทองคำยังอยู่ในระดับที่ดีเช่นเคย

เกิดอะไรขึ้นกับสินค้าโภคภัณฑ์?

ขณะที่ Fed ได้ออกนโยบายสินเชื่อที่เข้มงวดและขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 0.75% ส่วนนักลงทุนเริ่มเห็นราคามีการปรับเปลี่ยนไปตามภาวะถดถอย ถึงเวลาที่เราจะตัดสินค้าโภคภัณฑ์ออกจากสินทรัพย์ที่น่าสนใจแล้วจริงๆ หรือ? สิ่งหนึ่งที่ชัดเจน คือ นักลงทุนกำลังมองหาการกระจายความเสี่ยง ด้านหนึ่งพวกเขามองหาการลงทุนในกลุ่มอื่นๆ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ยังชื่นชมทองคำว่ายังมีมูลค่าที่ดีอยู่

สัญญาณตลาดทำให้นักลงทุนสับสนในการระบุจุดสูงสุดของอัตราเงินเฟ้อ หากเราดูราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่ได้ดีดตัวกลับหรือเคลื่อนไหวต่ำกว่ามูลค่าเริ่มแรกที่ปรากฎในเดือนกุมภาพันธ์ (ก่อนเกิดความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน)

Industry-best trading conditions
Deposit bonus
up to 200% Deposit bonus 
up to 200%
Spreads
from 0 pips Spreads 
from 0 pips
Awarded Copy
Trading platform Awarded Copy
Trading platform
Join instantly

อย่างไรก็ตาม จะโทษเหตุการณ์ทางการเมืองก็คงไม่ได้ เพราะแนวโน้มได้เริ่มต้นขึ้นในปี 2020 โดยราคาน้ำมันดิบดิ่งแตะจุดต่ำสุดพร้อมกับสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ในทางตรงกันข้าม ETF ระยะสั้นและการจ่ายเงินปันผลสำหรับ ETF สินค้าโภคภัณฑ์ได้เพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งในช่วงครึ่งแรกของปี โดยเพิ่มขึ้นราวๆ 15 พันล้านดอลลาร์ทีเดียว

ตลาดยังเห็นความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับ ETF โลหะที่เป็นที่นิยมเช่น GLD และ IAU ในฐานะเครื่องมือหลักในการปรับพอร์ตการลงทุน ETF สินค้าโภคภัณฑ์ให้มีความหลากหลายมากที่สุด โดยนักลงทุนให้ความสนใจโลหะมีค่าหลายรายการ เช่น ทองคำ และภาคส่วนอื่นๆ เช่น พลังงานและเกษตรกรรม

ผู้เชี่ยวชาญยังเบนความสนใจไปที่ทองคำ

จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed เราได้เห็นราคาทองคำร่วงหนักถึง 300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะเดียวกัน USD ก็เปรียบเสมือนหลุมหลบภัยให้กับนักลงทุน ซึ่งในช่วงแรกราคาทองคำดูเหมือนจะตอบสนองในทางลบต่อค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น

อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่าง USD กับทองคำนั้นค่อนข้างตรงกันข้าม มีแนวโน้มที่ค่าเงินดอลลาร์จะถูกกดดันหนักขึ้นในเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อและสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ค่าเงินอาจสั่นคลอนเกินกว่าระดับปัจจุบัน ในสถานการณ์เช่นนี้ ทองจะกลับมามีมูลค่าที่ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ นักลงทุนจะต้องเฝ้าจับตาปัจจัยอื่นๆ ที่มีความสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อไป

ขอให้ท่านโชคดีในการเทรด!