ทฤษฎี Random Walk หรือ Random walk hypothesis เป็นแนวคิดทางการเงินเฉพาะที่พัฒนาขึ้นเพื่อต่อต้านการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบดั้งเดิม เป็นแบบจำลองทางการเงินที่ให้แนวคิดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่คาดเดาไม่ได้
จริงที่ว่าไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าราคาหลักทรัพย์จะเคลื่อนไหวอย่างไรและทิศทางไหน โดยเชื่อกันตามทฤษฎีว่าตลาดมีการเคลื่อนไหวแบบสุ่มและไม่มีเครื่องมือทางเทคนิคใดที่สามารถช่วยบอกได้ว่าราคากำลังมุ่งไปในทิศทางใด ขณะเดียวกัน ทฤษฎีนี้จะใช้ข้อมูลในอดีตเพื่อติดตามราคาในอดีตและตัดสินใจว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไรในอนาคต
ในบทความวันนี้ เราจะมาอธิบายว่าทฤษฏีการเทรดแบบสุ่มมีหลักการอย่างไร และมีประโยชน์กว่าการเทรดโดยอาศัยปัจจัยทางเทคนิคแบบเดิมๆ หรือไม่?
ขณะที่นักเทรดสายเทคนิคเชื่อว่าราคาสินทรัพย์ปัจจุบันสะท้อนถึงสถานะปัจจุบันของบริษัทและตลาดโดยรวม แต่ในความเป็นจริงมูลค่าหุ้นประกอบด้วยข้อมูลและปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย
ในขณะเดียวกัน หากสมมติฐานเกี่ยวกับทฤษฎี Random Walk เป็นจริง ก็ไม่มีกลยุทธ์การเทรดใดที่สมเหตุสมผล นอกจากนี้ ที่สำคัญหากท่านเป็นคนหนึ่งที่อาศัยการวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นหลัก ท่านอาจมองว่าทฤษฎีนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นจริง
คำถามสำคัญคือว่าท่านคิดว่าราคาหุ้นมีการเคลื่อนไหวแบบสุ่มจริงหรือไม่?
หลักการง่ายๆ สมมติว่าท่านกำลังศึกษาข้อมูลและใช้เครื่องมือเทคโนโลยีเพื่อวิเคราะห์ราคาในอดีตของบริษัท A เมื่อเรียบเรียงและวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดแล้ว ท่านคาดว่าราคาหุ้นจะเพิ่มขึ้น ในฐานะนักลงทุน ท่านอาจตัดสินใจซื้อหุ้นโดยคาดหวังผลกำไรจากการเติบโตของราคา โดยไม่คำนึงว่าราคาหุ้นอาจเริ่มปรับลงและเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามในไม่ช้า
ผู้ที่เชื่อมั่นในทฤษฎี Random Walk จะมองว่าไม่มีความเชื่อมโยงระหว่างราคาหุ้นในปัจจุบันกับทิศทางที่จะเคลื่อนไหวต่อไป โดยวันนี้ราคาหลักทรัพย์อาจอยู่ที่ 20 เหรียญ ขณะที่พรุ่งนี้อาจขึ้นไปถึง $50 หรือลดลงเหลือ $5 ตามสมมติฐาน ราคาหุ้นในปัจจุบัน อดีต และอนาคตไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การเทรดแบบสุ่มนี้จะถือว่าโอกาสที่ราคาจะขยับขึ้นหรือสูงนั้นอยู่ที่ 50% ขณะที่นักเทรดผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เพียงพอและเคยเทรดมาแล้วอย่างยาวนานเท่านั้นที่สามารถพิสูจน์ได้พินั้นผิดสูจน์ได้ว่าแนวคิดนั้นผิด
ราคาหุ้นไม่ได้เคลื่อนไหวแบบสุ่ม ดูได้จากแพิทเทิร์นกราฟมากมาย โดยรูปแบบเหล่านี้บางรูปแบบสามารถดูและระบุได้ง่ายมาก เพราะจะมีการเคลื่อนเป็นวัฏจักรในระยะสั้นหรือระยะยาว แต่ก็อาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่นักเทรดทุกท่านจะเข้าใจ แต่ก็เป็นโอกาสที่ดีในการปรับกลยุทธ์การเทรดให้เหมาะสมตามแพทเทิร์นต่างๆ
สมมติฐานเป็นเพียงทฤษฎีที่กล่าวถึงในงานเขียนทางวิชาการและการเงินเป็นหลัก ยังไม่ได้รับการพิสูจน์และแทบจะไม่ได้รับการยืนัยนใดๆ ทั้งสิ้น ในโลกการเงินเองก็เช่นกัน ทฤษฎีบางทฤษฎีไม่ได้ตรงกับความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง
แม้ว่าท่านจะลองใช้ทฤษฎี Random walk และสร้างกราฟราคาแบบ "สุ่ม" กราฟนั้นก็อาจมีแพทเทิร์นอยู่แล้ว พูดง่ายๆ ก็คือคอมพิวเตอร์จะสร้างกราฟราคาด้วยรูปแบบกราฟที่สังเกตง่ายและมีการวางแผนอย่างชัดเจนในกรอบเวลาระยะยาว
หากทฤษฎี Random walk ไม่ได้รับการสนับสนุนด้วยข้อเท็จจริง แล้วทำไมนักเทรดบางรายจึงมองข้ามการวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค?
การวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคดีกว่าหรือไม่?
แน่นอน เนื่องจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคได้รับการยืนยันจากนักลงทุนหลายล้านคน ในขณะเดียวกัน ก็นักเทรดบางกลุ่มที่ชอบใช้ปัจจัยพื้นฐานมากกว่าตัวชี้วัดทางเทคนิค เนื่องจากมีความไม่มั่นใจดังนี้:
เรามองว่าทฤษฎีนี้ดูเหมือนเป็นการคาดคะเนมากกว่าการใช้เหตุผล ทางที่ดีนักลงทุนควรเลือกเทคนิคที่ตรงกับรูปแบบการเทรดและวิธีการเทรดของท่าน แต่ละวิธีสามารถใช้ประโยชน์ได้ดีขึ้นอยู่กับว่าท่านต้องการทำธุรกรรมอย่างไร
แม้ทฤษฎี Random walk จะยังคงมีอยู่ทั้งที่ไม่สอดคล้องกับรูปแบบตลาดการเงินในปัจจุบันเลยแม้แต่น้อย เราขอแนะนำให้ท่านศึกษาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและอาศัยเครื่องมือทางเทคนิคในการตัดสินใจอย่างแม่นยำจะดีกว่าการเชื่อทฤษฎีนี้เพียงอย่างเดียว
บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน