EURUSD ยังคงแข็งแกร่งที่ระดับสูงสุดในรอบปี โดยตลาดต่างจับตามองแถลงการณ์จากประธาน Fed

การประชุม Jackson Hole ได้กระตุ้นความเชื่อมั่นเชิงบวกอย่างระมัดระวังในหมู่นักลงทุนที่คาดหวังถึงสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางรายสำคัญ ถึงกระนั้น ข้อมูลดัชนี PMI ที่มีการรายงานในหลากหลายทิศทางประจำเดือนสิงหาคมและความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯและจีน ยังคงบดบังความเชื่อมั่นเชิงบวกนี้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่ปรับตัวดีขึ้นในสหรัฐฯเป็นส่วนใหญ่ ยังช่วยให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯฟื้นตัวจากการอ่อนค่าลงบางส่วนก่อนที่จะกลับมาปรับลดลงอีกครั้ง

ในบริบทนี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ปรับลดลงเล็กน้อยในระหว่างวันและมีแนวโน้มที่จะยังคงแนวโน้มขาลงเป็นเวลาห้าสัปดาห์ โดยแตะที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2023 การอ่อนค่าลงของดอลลาร์สหรัฐฯ ยังส่งผลให้สกุลเงินหลักอื่นๆและสินค้าโภคภัณฑ์มีโอกาสฟื้นตัวขึ้น ซึ่งสถานการณ์นี้ทำให้คู่เงิน EURUSD มีโอกาสที่จะขยายตัวตามแนวโน้มขาขึ้นที่ดำเนินมาแล้วสี่สัปดาห์ โดยเข้าใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือนด้วยเช่นกัน แม้ว่าความคิดเห็นเชิงสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงินจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะทดสอบช่วงแนวโน้มขาขึ้นยูโรก็ตาม ในทำนองเดียวกัน คู่เงิน GBPUSD ยังคงแข็งแกร่ง แม้จะมีข้อมูลเศรษฐกิจภายในประเทศที่ผสมผสานและการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารแห่งอังกฤษ (BoE)

ในขณะเดียวกัน คู่เงิน USDJPY กำลังพยายามรักษาระดับการฟื้นตัวในช่วงกลางสัปดาห์ โดยได้รับอิทธิพลจากความคิดเห็นของผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) Kazuo Ueda และข้อมูลเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่มีการรายงานในหลากหลายทิศทาง นอกจากนี้ คู่เงิน AUDUSD และคู่เงิน NZDUSD กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์นี้ แม้จะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจภายในประเทศที่ไม่ค่อยดีนัก ในส่วนของคู่เงิน USDCAD กำลังจะเผชิญกับการร่วงลงอย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สาม ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบและการอ่อนค่าลงของดอลลาร์สหรัฐฯที่ส่งผลในวงกว้าง

ในอีกทางหนึ่ง ราคาน้ำมันดิบไม่ได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากความกังวลว่าสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเป็นเวลานานอาจบั่นทอนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศที่บริโภคน้ำมันรายใหญ่ยังคงอยู่ อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำกลับมาอยู่ในทิศทางขาขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงสองวันที่ผ่านมา โดยนักลงทุนเตรียมตัวรับฟังสุนทรพจน์สำคัญในงานประชุมที่ Jackson Hole

เมื่อพูดถึงสกุลเงินดิจิทัล BTCUSD และ ETHUSD กำลังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับชัยชนะของพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯที่กำลังจะมาถึง อย่างไรก็ตาม การไหลออกของเงินทุนจากกองทุน ETF ที่ทำสถิติสูงสุดและการไหลเข้าของเงินทุนที่มีมูลค่าติดลบในตลาดแลกเปลี่ยนกำลังสร้างอุปสรรคให้กับแรงเทซื้อสกุลเงินดิจิทัล

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

• น้ำมันดิบ WTI พยายามรักษาระดับการดีดตัวสูงขึ้นของวันก่อนหน้า ขณะที่ชะลอการร่วงลงรายสัปดาห์ด้วยการปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในระหว่างวันอยู่ที่ประมาณ $73.00
• ทองคำ (Gold) พุ่งสูงขึ้นครั้งแรกในรอบสามวันที่ประมาณ $2,493
• ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD INDEX) ยังคงไม่แน่นอนที่ระดับต่ำสุดในปี 2024 โดยมีการเสนอราคาขายเล็กน้อยใกล้กับระดับ 101.40
• ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดลบเล็กน้อยแต่ ตลาดหุ้นในโซนเอเชียแปซิฟิก ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ หุ้นในยุโรปและสหราชอาณาจักร ยังขาดทิศทางที่ชัดเจนในช่วงเปิดการซื้อขาย
• BTCUSD และ ETHUSD พลิกกลับจากการร่วงลงในวันก่อนหน้า ด้วยการปรับตัวสูงขึ้นระหว่างวันเกือบ 1.0% ที่ประมาณ $60,900 และ $2,680 ตามลำดับ

ดอลลาร์สหรัฐฯฟื้นตัวก่อนการแถลงการณ์ของ Powell …

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) สามารถปรับตัวสูงขึ้นครั้งแรกในรอบห้าวัน ซึ่งได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่มีทิศทางเป็นบวก อย่างเช่น ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต S&P Global (S&P Global Services PMI) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นที่ค่อนข้างคงที่ ซึ่งการพักเบรกชั่วคราวนี้สำหรับดอลลาร์สหรัฐฯเกิดขึ้นท่ามกลางภาวะ consolidation ของตลาดก่อนการแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) Jerome Powell อย่างไรก็ตาม การคาดเดาว่า Powell อาจไม่สามารถปกป้องการดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่สูงต่อไปได้ ร่วมกับข้อมูลดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯที่น่าผิดหวังและข้อมูลการจ้างงานเบื้องต้น ยังคงทำให้ดอลลาร์สหรัฐฯอยู่ภายใต้แรงกดดัน นอกจากนี้ แรงกดดันขาลงที่เพิ่มขึ้นต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯยังเป็นผลมาจากความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ Fed—Collins, Harker และSchmid—ที่สนับสนุนให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม

คำกล่าวก่อนหน้านี้ของผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) Kazuo Ueda เกี่ยวกับความกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯได้สร้างความท้าทายต่อแรงเทซื้อ USD ส่งผลให้ราคาคู่เงิน USDJPY อ่อนตัวลงในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ นอกจากนี้ ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของญี่ปุ่นในเดือนกรกฎาคมยังปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเอื้อต่อแรงเทขายคู่สกุลเงินเยน

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังได้ส่งสัญญาณสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายผ่านท่าทีของผู้กำหนดนโยบายและรายงานการประชุมทางการเงินล่าสุด อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถส่งผลกระทบต่อช่วงแนวโน้มขาขึ้นของคู่เงิน EURUSD ได้ คู่เงินยูโรยังเผชิญกับความท้าทายจากการเติบโตของค่าแรงในเขตยูโรโซนที่ชะลอตัวลง รวมไปถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่อ่อนแอ และข้อมูลดัชนี PMI ประจำเดือนสิงหาคมที่ผสมผสานในหลากหลายทิศทาง ซึ่งได้ทดสอบความมุ่งมั่นของแรงเทซื้อคู่เงิน EURUSD ด้วยเช่นกัน

ทางด้านคู่เงิน GBPUSD ได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจในสหราชอาณาจักรที่มีแนวโน้มเชิงบวก รวมถึง ตัวเลขดัชนี PMI ภาคบริการ,ตัวเลขข้อมูล CBI Trend Total Orders และข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภค GfK ที่คงที่ ประกอบกับการอ่อนค่าลงของดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ความกังวลเกี่ยวกับความสามารถที่จำกัดของผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) Andrew Bailey ในการรักษาอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงในการแถลงการณ์ที่กำลังจะมาถึง ยังทำให้เกิดความเสี่ยงต่อค่าเงินปอนด์

ในขณะเดียวกัน คู่เงิน AUDUSD และคู่เงิน NZDUSD ไม่ตอบสนองต่อข้อมูลดัชนี PMI ที่ส่วนใหญ่มีทิศทางเชิงลบและตัวเลขยอดค้าปลีกในไตรมาสที่ 2 ของนิวซีแลนด์ที่อ่อนแอ ขณะที่ยังคงมีแนวโน้มที่ดี อย่างไรก็ตาม คู่เงิน USDCAD ยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน เนื่องจากความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมจากธนาคารกลางแคนาดา (BoC) ลดลง ประกอบกับการฟื้นตัวล่าสุดของราคาน้ำมันดิบ

อีกทางด้านหนึ่ง ราคาน้ำมันดิบยังคงมีเสถียรภาพ แม้จะมีความเป็นไปได้ที่จะร่วงลงในสัปดาห์นี้ ซึ่งดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลง, ข้อมูลดัชนี PMI ล่าสุดที่ปรับตัวดีขึ้นจากจีน และปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในตะวันออกกลางล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนด้วยส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและความเป็นไปได้ในการเพิ่มอุปทานจาก OPEC+ ยังคงทำให้แรงเทขายน้ำมันมีความหวัง

ทั้งนี้ ราคาทองคำยังคงดึงดูดแรงเทซื้อ โดยได้รับแรงหนุนจากการทำลายแนวต้านทางเทคนิค ประกอบกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ สภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในอินเดียและการเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลอินเดียยังชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่ความต้องการทองคำจากหนึ่งในผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลกจะมีการปรับตัวสูงขึ้น

• สัญญาณซื้อแรง: USDCAD, USDJPY, US Dollar, Silver
• สัญญาณขายแรง: AUDUSD, NZDUSD, GBPUSD, GBPJPY
• สัญญาณซื้อ: BTCUSD, ETHUSD, Nasdaq, Gold, DJI30, USDCNH
• สัญญาณขาย: DAX, FTSE 100, EURUSD, Crude Oil

ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่การประชุม Jackson Hole …

เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจมีการรายงานในหลากหลายทิศทางประกอบกับสัญญาณจากธนาคารกลางชั้นนำที่สนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างชัดเจน นักลงทุนในตลาดจึงรอคอยอย่างใจจดใจจ่อสำหรับการแถลงการณ์จากผู้บริหารระดับสูงของธนาคารกลางในการประชุมประจำปีที่ Jackson Hole ซึ่งการประชุมนี้มีนัยสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออดีตประธาน Fed Ben Bernanke ประกาศมาตรการ "helicopter money" ซึ่งส่งผลให้เกิดความผันผวนในตลาดอย่างมาก แม้ว่ามาตรการที่รุนแรงเช่นนั้นไม่น่าจะเกิดขึ้นจาก Jerome Powell ประธาน Fed คนปัจจุบัน แต่หากมีสัญญาณบ่งชี้อย่างชัดเจนถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปี 2024 นอกเหนือไปจากการปรับลดอัตราที่คาดการณ์ไว้ในเดือนกันยายน ก็อาจจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงไปอีก

สำหรับคู่เงิน GBPUSD จุดสนใจจะอยู่ที่ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) Andrew Bailey ซึ่งเขาจำเป็นต้องแสดงความคิดเห็นอย่างระมัดระวังเพื่อคงอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงในปัจจุบัน และปฏิเสธความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรง เพื่อสนับสนุนค่าเงินปอนด์และรักษาความแข็งแกร่งให้อยู่ใกล้กับจุดสูงสุดในรอบปี

ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา คู่เงิน EURUSD คาดว่าจะยังคงเป็นจุดสนใจของเทรดเดอร์ฝั่งขาขึ้น ขณะที่คู่เงิน USDJPY อาจได้เห็นการปรับลดลงเพิ่มเติมอย่างจำกัด สำหรับคู่เงิน AUDUSD,คู่เงิน NZDUSD, และคู่เงิน USDCAD อาจมีการดึงกลับในการปรับตัวสูงขึ้นในรอบสัปดาห์นี้ หากดอลลาร์สหรัฐฯฟื้นตัวตามความคิดเห็นของ Powell ถึงแม้ว่าสถานการณ์นี้ดูเหมือนจะมีโอกาสน้อยกว่า

ทองคำมีแนวโน้มที่จะยังคงดึงดูดแรงเทซื้อไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร โดยได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนของตลาดที่ยังคงอยู่และการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลง ในทางกลับกัน ราคาน้ำมันดิบจะต้องมีปัจจัยกระตุ้นเชิงบวกเพิ่มเติมเพื่อเรียกคืนโมเมนตัมและดึงดูดแรงเทซื้อ เนื่องจากขณะนี้จำเป็นต้องได้รับแรงหนุนเพื่อยืนยันตำแหน่งในตลาด

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !